fbpx
ชีวิตดีขึ้นได้ด้วย 4 วิธีจัดไฟในห้องนอนตามหลักฮวงจุ้ย | Lumencraft

ชีวิตดีขึ้นได้ด้วย 4 วิธีจัดไฟในห้องนอนตามหลักฮวงจุ้ย | Lumencraft

ห้องนอน เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ให้เราได้ใช้เวลายามกลางวันและยามค่ำคืนไปกับการผ่อนคลายอารมณ์และพักผ่อนร่างกายจากความเหนื่อยล้าสะสมตลอดทั้งวัน เราจึงควรคำนึงถึงองค์ประกอบต่างๆ ในห้องนอนเป็นพิเศษ โดยเฉพาะแสงไฟ แสงสว่างจากไฟในห้องนอนสำคัญต่อบรรยากาศภายในห้องและสุขภาพมากกว่าที่เราคิด จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ที่สำคัญ การบูรณาการหลักฮวงจุ้ยเข้ากับตำแหน่งไฟในห้องนอนจะยิ่งช่วยผลักดันให้ชีวิตรุ่งเรืองและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เพราะหลักฮวงจุ้ยถือว่ามีอิทธิพลอย่างมากต่อการไหลเวียนของพลังงานบวกไปทั่วทุกมุมห้อง ส่งผลดีต่อชีวิตในด้านต่างๆ รวมถึงอาชีพการงาน ความสัมพันธ์ และความเป็นอยู่โดยรวม บทความนี้จะขอแนะนำเคล็ดลับ 4 วิธีในการจัดแสงภายในห้องนอนให้น่านอนกว่าเดิมแถมถูกหลังฮวงจุ้ย เพื่อให้การใช้เวลาในห้องนอนมอบความสุขกายสบายใจให้เราได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รู้จักแสงจากหลอดไฟก่อนการติดตั้ง

ก่อนอื่น เราขอชวนมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับหลักฮวงจุ้ยเล็กน้อย หลักฮวงจุ้ย คือการสร้างสภาวะแวดล้อมของการอยู่อาศัยให้ถูกต้องตามหลักธรรมชาติจากคติของชาวจีน ซึ่งเป็นความเชื่อในเรื่องการไหลเวียนของพลังงานจากลม (ฮวง) และน้ำ (จุ้ย) แก่นหลักของฮวงจุ้ยคือการเลือกสรรและจัดวางสิ่งของภายในบ้านอย่างเหมาะสมเพื่อให้พลังงานที่ดีไหลเข้าสู่สถานที่สำคัญอย่าง “บ้าน” ซึ่งเชื่อกันว่าจะเกื้อหนุนให้ผู้อยู่อาศัยได้รับพลังงานดีๆ ช่วยส่งเสริมให้การดำเนินชีวิตในแต่ละวันเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น

ในการที่จะติดตั้งไฟ เราควรทำความเข้าใจคุณลักษณะของแสงจากหลอดไฟประเภทต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้เราเข้าใจถึงวิธีการเลือกใช้แสงทั้งในห้องนอนและห้องอื่นๆ พร้อมตัดสินใจเลือกไฟได้อย่างชาญฉลาดเป็นไปตามหลักฮวงจุ้ยและตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของเราได้อย่างครบถ้วนที่สุด โดยแสงจากหลอดไฟในที่นี้จะแบ่งประเภทไปตามอุณหภูมิของสี ซึ่งมี 3 ประเภทด้วยกัน ดังนี้

– หลอดไฟวอร์มไวท์ (Warm White)

หลอดไฟวอร์มไวท์มีตั้งแต่สีเหลืองเข้มไปจนถึงสีส้ม สีโทนอุ่นของหลอดไฟช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายสบายตา สร้างความอบอุ่นโรแมนติก เหมาะแก่การประดับตกแต่ง ทั้งยังเป็นสีที่ส่งเสริมโชคลาภตามหลักฮวงจุ้ย ร้านอาหารมักแต่งแต้มด้วยหลอดไฟวอร์มไวท์เพื่อความเจริญรุ่งเรืองและสร้างบรรยากาศแห่งการยินดีต้อนรับ หลอดไฟวอร์มไวท์ยังคู่ควรกับการใช้งานภายในห้องนอนและห้องนั่งเล่นเป็นอย่างยิ่ง 

– หลอดไฟเดย์ไลท์ (Daylight)

หลอดไฟเดย์ไลท์จะเปล่งแสงสีขาวแบบธรรมชาติออกฟ้าเล็กน้อยซึ่งใกล้เคียงกับโทนแสงในช่วงกลางวัน ไฟเดย์ไลท์เป็นที่รู้จักในด้านความสว่างแจ่มชัด ให้ความรู้สึกสดชื่น ตื่นตัว จึงมักพบเจอไฟสีนี้ในสำนักงานและห้องเรียน เพราะช่วยเพิ่มความกระตือรือร้นในการเรียนและการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังส่งเสริมในเรื่องความคิดสร้างสรรค์ได้เป็นอย่างดีตามหลักฮวงจุ้ย หลอดไฟเดย์ไลท์ยังเหมาะกับการใช้งานภายในห้องทำงานและห้องน้ำเพื่อสร้างบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา เอื้อต่อการทำงานและการดูแลตัวเอง

– หลอดไฟคูลไวท์ (Cool White)

หลอดไฟคูลไวท์ให้แสงสีขาวออกเหลืองเล็กน้อย เป็นโทนแสงที่ผสมผสานระหว่างหลอดไฟวอร์มไวท์แห่งความอบอุ่นกับหลอดไฟเดย์ไลท์แห่งความสดใสได้อย่างกลมกลืน ให้ความหมายถึงความรุ่งเรืองและความสงบสุข โทนสีอ่อนนี้ให้บรรยากาศที่นุ่มนวลสบายตาซึ่งพบเห็นได้บ่อยในห้างสรรพสินค้า การเสริมแต่งสีสันภายในห้องนอนและห้องครัวด้วยหลอดไฟคูลไวท์จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดียิ่ง 

ในบรรดาตัวเลือกต่างๆ หลอดไฟวอร์มไวท์คือหลอดไฟที่เหมาะสำหรับใช้ในห้องนอนมากที่สุด เพราะหลอดไฟวอร์มไวท์ปล่อยแสงสีฟ้าออกมาน้อยที่สุด ในทางวิทยาศาสตร์พบว่าแสงสีฟ้าจะยับยั้งการผลิตฮอร์โมนที่มีชื่อว่า เมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย หลอดไฟวอร์มไวท์ยังให้บรรยากาศอบอุ่น ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกสงบ จึงพักผ่อนได้อย่างสบายใจ ตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว พลังงานที่แผ่ออกมาจากหลอดไฟวอร์มไลท์จะช่วยดึงดูดความเจริญรุ่งเรืองและความอุดมสมบูรณ์มาสู่ชีวิต โดยระดับความสว่างที่แนะนำสำหรับหลอดไฟวอร์มไวท์คือ 150 – 300 Lux และความสว่างทั่วไปภายในห้องนอนไม่ควรเกินกว่า 150 Lux ข้อดีที่ไม่เหมือนใครของหลอดไฟวอร์มไวท์จะช่วยให้การพักผ่อนและความเป็นอยู่ของเราราบรื่นยิ่งขึ้น

เลือกตำแหน่งในการติดตั้งไฟภายในห้องนอน

โดยปกติแล้ว ไฟที่ติดตั้งภายในห้องมักจะใช้เป็นไฟดาวน์ไลท์หรือไฟที่ติดตั้งอยู่บนฝ้าเพดาน เรามักจะเห็นตำแหน่งของไฟดาวน์ไลท์ประดับอยู่บริเวณเพดานกลางห้องสาดส่องลงมายังเตียงนอนของเรา แต่ในความเป็นจริง การติดตั้งไฟในลักษณะนี้อาจส่งกระทบในแง่ลบต่อสายตาของเราได้ เพราะจุดประสงค์หลักของไฟในห้องนอนคือการสร้างบรรยากาศถนอมสายตาและเอื้อต่อการพักผ่อน ในศาสตร์ฮวงจุ้ย การติดตั้งไฟที่ถูกต้องคือการหลีกเลี่ยงไม่ให้ไฟส่งผลกระทบต่อการพักผ่อนและการใช้ชีวิตประจำวันเพื่อรักษาการไหลเวียนของพลังงานให้สมดุลกันภายในพื้นที่ใช้สอยของห้องนอน ดังนั้นเราจึงควรพิจารณาเลือกตำแหน่งสำหรับติดตั้งไฟในห้องนอนอย่างถี่ถ้วน โดยจะมีเทคนิคอยู่ 5 ข้อหลักๆ ดังนี้

– วางตำแหน่งไฟดาวน์ไลท์หลบมุมสายตา

การวางตำแหน่งไฟดาวน์ไลท์ใกล้กับสายตาเราโดยตรงจะเป็นอันตรายต่อการมองเห็นของเราได้ เราจึงควรวางไฟดาวน์ไลท์หลบมุมสายตาเพื่อไม่ให้แสงกระทบกับสายตามากเกินไป เช่น บริเวณข้างเตียงนอน แสงสว่างที่ส่องเข้ามาจากทางด้านข้างจะช่วยถนอมสายตาได้ดีขึ้น ทั้งยังช่วยให้การเดินไปเดินมาใกล้กับเตียงนอนภายในห้องปลอดภัยขึ้นอีกด้วย

– วางตำแหน่งไฟดาวน์ไลท์บริเวณหัวเตียง

สำหรับชุมชนคนรักการอ่าน การติดตั้งไฟดาวน์ไลท์หรือไฟสำหรับอ่านหนังสือบริเวณหัวเตียงจะช่วยให้แสงที่ส่องสว่างเข้ามามีความเพียงพอเหมาะสมสำหรับการอ่านหนังสืออยู่บนเตียง เป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้แสงสะท้อนเข้าตาเราโดยตรง ช่วยให้ดวงตาเมื่อยล้าน้อยลงและไฟจะไม่แยงตาด้วย ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูร่างกายให้พร้อมตื่นมารับเช้าวันใหม่ตามหลักฮวงจุ้ยนั่นเอง

– ติดตั้งไฟที่ซ่อนอยู่ภายในฝ้าหลุม 

การติดตั้งไฟซ่อนฝ้าหรือไฟที่ซ่อนอยู่ภายในฝ้าหลุมสามารถใช้ได้ทั้งไฟดาวน์ไลท์และไฟ LED โดยแสงที่ส่องเข้ามาจะมีความนุ่มนวล สบายตา การติดตั้งไฟด้วยวิธีนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยปกป้องสุขภาพดวงตาเท่านั้น แต่ยังช่วยให้มั่นใจได้ว่าแสงจะไม่รบกวนสายตาและไฟจะไม่ทำร้ายดวงตาขณะพักผ่อน ศาสตร์แห่งฮวงจุ้ยเชื่อกันว่าการซ่อนไฟไว้ในฝ้าหลุมเช่นนี้จะช่วยส่งเสริมพลังงานด้านบวกให้กับผู้อยู่อาศัย ช่วยให้การไหลเวียนของพลังบวกสามารถแทรกซึมไปทุกซอกทุกมุมของห้องนอนได้

– ใช้โคมไฟตั้งโต๊ะ

หากต้องการโคมไฟที่ให้แสงสว่างพร้อมประดับตกแต่งห้องไปด้วยนั้น เราสามารถใช้โคมไฟที่แสงส่องลงมาด้านล่างหรือส่องขึ้นไปบนฝ้าเพดานได้ ซึ่งจะเป็นการผสมผสานประโยชน์และความสวยงามเข้าด้วยกันได้อย่างกลมกลืน สิ่งสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงการใช้โคมไฟที่แสงส่องออกไปทางด้านข้างเพราะจะทำให้รู้สึกปวดตาได้ง่าย ในทางฮวงจุ้ยแล้ว การจัดวางโคมไฟไว้ที่หัวเตียงทั้งสองด้านจะช่วยเกื้อหนุนความรักสำหรับชีวิตคู่ให้เหนียวแน่นขึ้นด้วย

– ติดตั้งไฟหลังทีวี

บ่อยครั้งเรามักดูทีวีโดยการปิดไฟเพื่อให้สายตาสามารถจดจ่อไปที่รายการทีวีได้มากขึ้น ทำให้สายตาเสียได้ง่าย ในทางฮวงจุ้ย เราไม่ควรติดตั้งไฟในห้องนอนเพราะอาจรบกวนการนอนหลับ แต่หากเลี่ยงไม่ได้ เราสามารถเพิ่มไฟที่สามารถติดตั้งหลังทีวีหรือใกล้กับทีวีได้ ซึ่งจะทำให้แสงสว่างกระจายตัวไปด้านข้างทีวี ช่วยให้แสงไม่ทำลายสายตาขณะที่เรานั่งหรือนอนดูทีวีภายในห้อง วิธีนี้ไม่เพียงช่วยปรับปรุงการมองเห็นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เราสามารถดื่มด่ำกับการรับชมรายการทีวีได้อย่างเพลิดเพลินโดยไม่กระทบสุขภาพดวงตา

เสริมอุปกรณ์ควบคุมไฟในห้องนอน

ตามศาสตร์แห่งฮวงจุ้ย อุปกรณ์ควบคุมไฟสำหรับใช้ในห้องนอนมีความสำคัญต่อการสร้างสภาพแวดล้อมที่สมดุลและสร้างพลังงานบวกให้กับทั้งร่างกายและจิตใจ เพราะแน่นอนว่าจะช่วยให้เราพักผ่อนได้อย่างสบายใจและใช้ชีวิตได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบัน อุปกรณ์ควบคุมไฟสำหรับใช้ในห้องนอนมีหลากหลายแบบที่ช่วยให้เราสามารถควบคุมแสงไฟในแต่ละช่วงเวลาได้อย่างสะดวกสบายและตรงใจเรามากขึ้น นอกจากสวิตซ์เปิดปิดธรรมดาที่ใช้สำหรับควบคุมไฟภายในห้องแล้ว ยังมีอุปกรณ์ควบคุมไฟอื่นๆ ที่ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นได้อีก อย่างเช่น

– สวิตซ์หรี่ไฟ (Dimmer Switch)  

เราสามารถใช้สวิตซ์หรี่ไฟควบคุมและปรับระดับความสว่างภายในห้องนอนให้เข้ากับสถานการณ์และอารมณ์ของเราได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำให้ไฟสว่างมาก สว่างน้อย หรือเปิดเป็นแค่ไฟสลัวๆ เกือบมืดก็ทำได้ทั้งนั้น

– อุปกรณ์ควบคุมไฟผ่าน Smart Phone 

การควบคุมไฟผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส เรียกได้ว่าสะดวกสุดๆ เรายังสามารถปรับความสว่างหรือเปิดปิดไฟได้ทุกเมื่อและทุกที่ ไม่จำเป็นต้องลุกขึ้นไปเปิดปิดไฟหรือเดินไปที่สวิตซ์ไฟเพื่อปรับความสว่างของแสงไฟอีกต่อไป

ติดตั้งไฟภายในห้องนอนตามหลักฮวงจุ้ย

อย่างที่เราพอทราบกันแล้วว่าหลักฮวงจุ้ยเป็นศาสตร์ที่มีความเชื่อกันมานานว่าสามารถเพิ่มความเจริญรุ่งเรืองและความสำเร็จในชีวิตได้ ดังนั้น เราขอแนะนำวิธีการติดตั้งไฟเพิ่มเติมเพื่อน้อมรับความสุขและความสำเร็จเข้ามาสู่ชีวิต

– ควบคุมแสงสว่างภายในห้องนอน

หลักหยินหยาง หรือหลักความสมดุลที่มีรากฐานมาจากภาษาฮวงจุ้ย อธิบายได้ว่าห้องนอนควรให้ความรู้สึกสงบดังพลังงานหยินและความสว่างก็คือตัวแทนของหยาง หลักหยินหยางจึงเป็นการรักษาบรรยากาศของความสงบและความสว่างภายในห้องนอนให้กลมกลืนกันพอดี หากไฟในห้องนอนสว่างเกินไปจะก่อให้เกิดความร้อน ส่งผลให้นอนไม่หลับหรือหลับได้ไม่เต็มอิ่ม เราจึงควรควบคุมแสงสว่างภายภายในห้องนอนในระดับที่เหมาะสมอยู่เสมอตามหลักหยินหยางนั่นเอง

– เลือกสีของไฟภายในห้องนอน 

กุญแจสำคัญของการเลือกสีของแสงที่จะใช้สำหรับห้องนอนคือการเลือกสีที่ให้แสงนุ่มนวล ไม่สว่างจนเกินควร หรือมีสีฉูดฉาดทำลายสายตา เราสามารถใช้สีวอร์มไวท์ที่ช่วยรักษาสายตาหรือจะอาศัยแสงจากธรรมชาติที่มอบพลังงานที่ดีไหลเวียนเข้าสู่ห้องนอนมากที่สุดก็ได้เช่นกัน เพื่อให้เราได้ตื่นมาสัมผัสกับแสงแดดธรรมชาติยามเช้าแสนสดชื่น สำหรับในช่วงเวลากลางคืนนั้น การอาศัยเพียงแสงไฟเบาๆ ที่เพียงพอต่อการจัดการทุกอย่างก่อนนอนก็ทำให้เรานอนหลับพักผ่อนได้ด้วยแสงที่มืดสนิทและดีต่อสุขภาพได้แล้ว

จำนวนไฟในห้องนอน 

ตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว เราควรหลีกเลี่ยงการติดตั้งไฟภายในห้องนอนเป็นจำนวน 7 และ 9 หรือ 11 ดวง เพราะอาจส่งผลให้ต้องแบกรับภาระหนักอึ้งและโชคไม่ดี ส่งผลกระทบให้การดำเนินชีวิตยากกว่าเดิม

เป้าหมายสำคัญของการจัดไฟในห้องนอนอย่างพิถีพิถันและสอดคล้องตามหลักฮวงจุ้ย คือ การสร้างสมดุลและการสร้างระดับแสงสว่างที่เพียงพอและตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัยเพื่อสร้างบรรยากาศสุดแสนผ่อนคลาย สบายตา ให้ร่างกายได้เติมพลังและฟื้นฟูตนเองอย่างเต็มที่ เปลี่ยนสภาพแวดล้อมภายในห้องนอนของคุณให้กลายเป็นสวรรค์อันเงียบสงบและเป็นมงคล พร้อมเกื้อหนุนภาพรวมชีวิตให้เต็มเปี่ยมด้วยความสุข

การติดตั้งไฟในห้องนอนหรือห้องอื่นๆ จะต้องผ่านการไตร่ตรองอย่างรอบคอบ โดยคุณสามารถแวะชมสินค้าไฟหลากหลายประเภทได้ที่ Lumencraft หรือหากคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดไฟในห้องนอน หรือแม้แต่ในคอนโดมิเนียม ห้างสรรพสินค้า โชว์รูม สำนักงาน ร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์ คลินิกเสริมความงาม รีสอร์ท Lumencraft ก็พร้อมให้บริการคุณอย่างเต็มที่

Select the fields to be shown. Others will be hidden. Drag and drop to rearrange the order.
  • Image
  • Description
  • Attributes
Click outside to hide the compare bar
Compare