fbpx
เปิดโลกโคมไฟ ชวนมารู้จักโคมไฟตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคุณ l Lumencraft

เปิดโลกโคมไฟ ชวนมารู้จักโคมไฟตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคุณ l Lumencraft

ในยุคสมัยที่การออกแบบนวัตกรรมทางเทคโนโลยีเกิดขึ้นมากมาย โคมไฟจึงไม่ใช่แค่อุปกรณ์ส่องสว่างเพียงอย่างเดียวแล้ว เพราะในปัจจุบัน โคมไฟยังถือเป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งบ้านหรือสถานที่ต่างๆ อาทิ คอนโดมิเนียม สำนักงาน โรงแรม ฯลฯ ทั้งยังสามารถนำไปใช้ได้หลากหลายโอกาส ตอบสนองต่อความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของผู้ใช้ วันนี้เราจึงอยากพาคุณเดินทางไปเปิดโลกสารพัดโคมไฟ โดยการทำความรู้จักกับประเภทของโคมไฟ เรียนรู้ถึงประโยชน์ของโคมไฟแต่ละประเภท พร้อมทั้งวิธีการเลือกโคมไฟเพื่อที่คุณจะได้นำโคมไฟไปใช้ได้อย่างถูกต้องและประดับตกแต่งได้สวยงามยิ่งขึ้น ไปติดตามพร้อม ๆ กันเลย

โคมไฟ คืออะไร?

โคมไฟ คืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับส่องสว่างได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ส่วนประกอบของโคมไฟจะประกอบด้วยตัวโคมที่ใช้ปกป้องหลอดไฟหรือแหล่งกำเนิดแสง และโครงฐานที่ใช้รองรับหรือติดตั้งโคมไฟ ทุกวันนี้โคมไฟมักถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งบ้าน เพราะส่วนใหญ่ โคมไฟสมัยใหม่จะได้รับการออกแบบมาอย่างสวยงาม มีเอกลักษณ์ ผ่านการรังสรรค์แต่ละชิ้นส่วนอย่างพิถีพิถันเพื่อให้เข้ากับสถานที่มากขึ้น โคมไฟจึงถือเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ช่วยสร้างบรรยากาศ เสริมสร้างสไตล์แต่ละพื้นที่ให้โดดเด่นเป็นที่จดจำ ตลอดจดยกระดับสถานที่ให้มีความหรูหรามากขึ้น

ประเภทของโคมไฟ

โคมไฟผ่านการออกแบบมาโดยคำนึงถึงการใช้งานและความสวยงาม ด้วยการผสมผสานระหว่างการออกแบบ สี รูปทรง และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้โคมไฟแต่ละชิ้นสามารถตอบโจทย์ได้สารพัดการใช้งาน เราขอแนะนำแต่ละประเภทของโคมไฟดังต่อไปนี้

โคมไฟเพดาน

โคมไฟเพดานจะติดตั้งอยู่บนเพดานของห้อง มีหลายรูปทรงให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นสี่เหลี่ยม วงกลม รูปทรงอิงตามธรรมชาติ เช่น มีลักษณะคล้ายดอกไม้ ดอกบัว ผีเสื้อ หรือเป็นโคมไฟที่ห้อยลงมาในหลากหลายสไตล์ ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้สถานที่นั้นๆ น่าอยู่ยิ่งขึ้น โคมไฟเพดานสามารถกระจายแสงได้ทั่วทุกมุมห้อง เหมาะสำหรับห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือห้องทำงาน

โคมไฟทำงาน

โคมไฟทำงานมีลักษณะเป็นโคมไฟตั้งโต๊ะ ตั้งพื้น ยึดติดกับโต๊ะหรือผนัง มีหลากหลายรูปทรงให้เลือกเช่นกัน ส่วนใหญ่สามารถปรับระดับความสูงต่ำได้ บางตัวสามารถหมุนได้ 360 องศา บางตัวสามารถปรับระดับแสงสว่างและพับเก็บได้อีกด้วย โคมไฟทำงานมีทั้งแบบเสียบปลั๊กและแบบใช้แบตเตอรี่ โดยออกแบบมาให้แสงส่องเน้นไปยังพื้นที่ทำงาน เช่น โต๊ะทำงาน โต๊ะอ่านหนังสือ เหมาะสำหรับห้องทำงานหรือห้องนอน โดยค่าแสงไฟที่เหมาะสำหรับการอ่านหนังสือนั้น เราควรเลือกใช้หลอดไฟสี Cool White ที่มีค่าแสงอยู่ที่ 4000K เพื่อช่วยถนอมสายตาและอ่านหนังสือได้นานยิ่งขึ้น

โคมไฟดาวน์ไลท์

โคมไฟดาวน์ไลท์จะติดตั้งซ่อนอยู่ใต้ฝ้าเพดาน โดยหลักแล้วมีอยู่ด้วยกันสี่รูปแบบ ได้แก่ ไฟดาวน์ไลท์แบบฝังใต้ฝ้า ไฟดาวน์ไลท์ติดลอย โคมไฟดาวน์ไลท์แบบแขวน และโคมไฟดาวน์ไลท์แบบฝังกึ่งลอย แต่ละรูปแบบมีความโดดเด่นในสไตล์ที่ต่างกันขึ้นอยู่กับว่าคุณชอบสไตล์แบบไหน โคมไฟดาวน์ไลท์จะให้แสงที่มีความอ่อนโยน นุ่มนวล มอบความรู้สึกอบอุ่นสบายตา เหมาะสำหรับใช้ในห้องครัว ห้องน้ำ หรือห้องรับแขก ยกตัวอย่าง โคมไฟดาวน์ไลท์รุ่น AVA MONICA FLIN จาก Lumencraft ผู้เชี่ยวชาญด้านโคมไฟและแสงสว่างในประเทศไทย โคมไฟดาวน์ไลท์รุ่น AVA MONICA FLIN เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในห้องที่จำเป็นต้องใช้พลังไฟสูงแต่ค่าแสงไม่เบี่ยงเบนมาก เพราะมีขนาดกระทัดรัดและค่อนข้างกลมกลืนไปกับฝ้าเพดานอย่างลงตัว ทำให้ฝ้าดูเรียบสวยไม่เป็นช่องหลุมเหมือนโคมดาวน์ไลท์ทั่วไป หากเป็นโคมประเภท COB อายุการใช้งานจะนานกว่าหลอดประเภท Retrofit หลายเท่าและยังได้ความสว่างที่มากกว่า หลอด LED Retrofit ทั่วไปอายุการใช้งานจะอยู่ที่ 2-4 ปี แต่สำหรับโคมประเภท COB เราสามารถใช้งานได้นานกว่า 10 ปีเลยทีเดียว

โคมไฟระเบียงหน้าบ้าน

โคมไฟระเบียงหน้าบ้านคือโคมไฟที่ติดตั้งบริเวณหน้าบ้าน โดยมักติดกับผนังและเน้นให้ความสว่างในพื้นที่ด้านนอก เช่น ระเบียง สวน หรือบริเวณทางเดิน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยแก่ผู้อยู่อาศัยรวมถึงแขกที่มาเยี่ยมบ้านในเวลากลางคืน ที่สำคัญ ดีไซน์และแสงที่ส่องออกมาจากโคมไฟระเบียงหน้าบ้านจะช่วยมอบความรู้สึกแห่งการยินดีต้อนรับให้กับบ้านหลังนั้น ทั้งยังเป็นเสมือนประตูที่นำพาความเจริญรุ่งเรืองมาสู่เจ้าของบ้านอีกด้วย มากกว่านั้น เพราะเราจำเป็นต้องเปิดโคมไฟระเบียงหน้าบานตลอดทั้งคืน Lumencraft จึงขอแนะนำให้ใช้โคมประเภท Wall Light (IP54) สำหรับระเบียงที่มีชายคา หากเป็นภายนอกที่โดนน้ำฝน ควรเลือกโคมไฟที่มี IP65 ขึ้นไป และสำหรับไฟสนามหรือไฟภายนอก การเลือกค่าของแสงอยู่ที่ 2700K จะให้อารมณ์ความรู้สึกที่ดีกว่า ช่วยให้บ้านน่าอยู่และประหยัดไฟได้มากกว่าเดิม

โคมไฟ LED

โคมไฟ LED เป็นโคมไฟที่ใช้แหล่งกำเนิดแสงจากหลอดไฟ LED ซึ่งประหยัดพลังงานและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน องค์กร บริษัท ห้างสรรพสินค้า หรือโรงงานอุตสาหกรรม มักใช้หลอดไฟ LED เพราะความมีประสิทธิภาพและศักยภาพในการประหยัดพลังงานของหลอดไฟ LED โคมไฟ LED สามารถนำไปใช้ได้กับทุกประเภทของโคมไฟ อีกทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 

ประโยชน์ของโคมไฟ

นอกจากการให้แสงสว่างแล้ว โคมไฟยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย อาทิ

เพิ่มความปลอดภัย

โคมไฟช่วยให้เรามองเห็นสิ่งที่ก่อให้เกิดอันตราย มองเห็นสิ่งที่อยู่บนถนนและสิ่งกีดขวางต่างๆ ในที่มืดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ยกตัวอย่าง โคมไฟ Street Light ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงเวลาค่ำมืด

ส่งเสริมบรรยากาศ

โคมไฟเป็นองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการเสริมสร้างบรรยากาศโดยรอบให้สวยงามและน่าอยู่ โดยเฉพาะในสถานที่สำหรับพักผ่อน เช่น โรงแรม รีสอร์ท การเลือกโคมไฟที่เหมาะสมและไม่เหมือนใคร จะช่วยดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาพักอาศัยได้ดีเลยทีเดียว 

ประหยัดพลังงาน

สำหรับโคมไฟที่ช่วยประหยัดพลังงาน ต้องยกให้โคมไฟ LED เพราะใช้พลังงานน้อย ให้ความสว่างสูง ไม่ปล่อยรังสี UV ถือเป็นโคมไฟที่สามารถลดค่าไฟและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้เป็นอย่างดี

ช่วยในการทำงาน

ยามค่ำคืนที่เราไม่ต้องการเปิดไฟจนทั่วห้อง เราสามารถเลือกเปิดเฉพาะโคมไฟทำงานหรือโคมไฟตั้งโต๊ะได้ เช่น โคมไฟอ่านหนังสือ โคมไฟประเภทนี้มักมีการออกแบบให้มีความสว่างในระดับที่เหมาะสมสำหรับการทำงานหรือการอ่านหนังสือ จึงช่วยถนอมสายตา เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ช่วยให้ทำงานได้นานขึ้น ทั้งยังประหยัดไฟอีกด้วย

วิธีการเลือกโคมไฟให้ตอบโจทย์

ปัจจุบัน โคมไฟมีมากมายหลายรูปแบบให้เลือกซื้อ ทำให้หลายคนเกิดความลังเลสับสนว่าจะเลือกโคมไฟแบบไหนดี เราขอแนะนำเคล็ดลับในการเลือกโคมไฟให้ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ แล้วการเลือกโคมไฟจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

พิจารณาจากความต้องการ

ก่อนอื่นต้องพิจารณาความต้องการของตนเองให้แน่ชัดก่อนว่า คุณต้องการโคมไฟที่ใช้สำหรับอะไร เช่น หากเน้นความสว่างภายในอาคารพาณิชย์ ก็อาจจะเลือกโคมไฟออฟฟิศหรือโคมไฟที่ใช้ในสำนักงาน เป็นต้น วิธี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกโคมไฟได้ง่ายยิ่งขึ้น

พิจารณาจากสไตล์และการตกแต่ง

หลังจากได้ทำความเข้าใจเหตุผลในการเลือกโคมไฟของตนเองแล้ว มาพิจารณาสไตล์และการตกแต่งกันต่อ โดยคุณจะต้องเลือกสไตล์และการตกแต่งที่เข้ากับสถานที่ที่จะไปติดตั้งโคมไฟ เช่น หากคุณจะติดตั้งโคมไฟเพดานในบ้าน คุณต้องคำนึงถึงสไตล์การตกแต่งบ้านโดยรวมของคุณทั้งหมด และดูว่าเป็นสไตล์แบบไหน เช่น โมเดิร์น มินิมอล คลาสสิก หรือลักซูรี คุณจะได้เลือกโคมไฟในสไตล์ที่เข้ากับตัวบ้านได้มากที่สุด

ขนาดและความสูงของโคมไฟ

ขนาดของโคมไฟมีผลต่อการกระจายแสงและบรรยากาศของพื้นที่โดยรอบอย่างเลี่ยงไม่ได้ คุณจึงต้องประเมินขนาดและความสูงของสถานที่ที่คุณจะไปติดตั้งโคมไฟให้รอบคอบเพื่อที่จะได้เลือกโคมไฟที่พอดีกับสถานที่นั้นๆ เช่น โคมไฟเพดาน ควรเลือกโคมไฟที่เหมาะสมกับความสูงของเพดาน ไม่ต่ำหรือสูงจนเกินไป และส่องแสงสว่างได้ทั่วทุกมุมห้อง หรือโคมไฟทำงาน ก็ควรอยู่ในระดับสายตาเพื่อลดอาการเมื่อยล้าของสายตา 

แสงจากโคมไฟ

แสงจากโคมไฟเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะแสงแต่ละสีจะให้ความรู้สึกแตกต่างกันชัดเจน เช่น แสงไฟสีโทนอุ่นอย่างวอร์มไวท์ จะให้ความรู้สึกอบอุ่นโรแมนติกเหมาะสำหรับใช้ในห้องนอน แสงสีขาวธรรมชาติอย่างเดย์ไลท์ก็จะให้ความรู้สึกกระตือรือร้นเหมาะสำหรับใช้ในสำนักงาน เป็นต้น การศึกษาเรื่องแสงจากโคมไฟมาก่อนก็จะช่วยให้คุณเลือกโคมไฟที่เอื้ออำนวยและเป็นผลดีต่อการดำเนินชีวิตประจำวันได้มากขึ้น

การรับประกัน

การซื้อโคมไฟจากร้านขายโคมไฟไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ควรตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันสินค้าอย่างรอบคอบ และตรวจสอบให้มั่นใจว่าการบริการหลังการขายมีคุณภาพ เพื่อให้คุณได้รับสินค้าที่ดีที่สุดและคุ้มค่ามากที่สุด 

Lumencraft Ligiting มีหลากหลายสินค้าให้เลือกพร้อมการรับประกันสินค้าที่วางใจได้ โดยการรับประกันสินค้าของ Lumencraft ในแต่ละรุ่นจะไม่เท่ากัน อาทิ (1) ประเภทหลอด Bulb E27 รับประกัน 1 ปี (2) ประเภทหลอด Gu10 รับประกัน 2 ปี (3) ประเภทโคม COB ทั่วไป, Striplight, Power supply รับประกัน 3 ปี โดยหากต้องการเคลมสินค้า ลูกค้าต้องเก็บใบเสร็จรับเงินไว้ หากใบเสร็จรับเงินหาย จะไม่สามารถเคลมสินค้าได้ในทุกกรณี ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัย ลูกค้าสามารถติดต่อสอบถามทาง Lumencraft ได้ทุกเมื่อ เพราะ Lumencraft พร้อมที่จะตอบคำถามและคลายข้อสงสัยให้ลูกค้าในทันที

ดูแลโคมไฟอย่างไรให้ใช้ได้นาน

หากเราซื้อโคมไฟมาแล้ว สิ่งหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือการบำรุงรักษาโคมไฟ ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่า จะมีวิธีดูแลรักษาโคมไฟอย่างไรให้ใช้ได้นาน เราจะมาเผยวิธีให้คุณได้ทราบดังนี้

  • เลือกหลอดไฟที่มีขนาดหรือแรงดันที่ตรงกับโคมไฟ และหลีกเลี่ยงการใช้หลอดไฟที่มีความร้อนสูงเกินไป เพื่อถนอมหลอดไฟให้ใช้งานได้นานขึ้น
  • ตรวจสอบสภาพโคมไฟอย่างสม่ำเสมอ และควรติดตั้งโคมไฟในตำแหน่งที่ไม่เป็นอันตรายต่อการชนหรือร่วง
  • ควรใช้งานโคมไฟอย่างระมัดระวัง ไม่ควรเปิด-ปิดสวิตช์ไฟอย่างรุนแรง เพราะอาจทำให้ระบบภายในเสียหายได้
  • ก่อนทำความสะอาด ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า ปิดสวิตช์โคมไฟแล้วทุกครั้ง ไม่เช่นนั้นอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต
  • หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่เข้มข้นเกินไป เพียงใช้น้ำยาล้างจานผสมกับน้ำสะอาด และใช้ผ้านุ่ม ๆ ที่ไม่มีเส้นใยมาทำความสะอาดโคมไฟเพื่อป้องกันรอยขีดข่วนและคราบขุ่นมัว แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

เพราะโคมไฟคือองค์ประกอบที่ให้ทั้งแสงสว่าง เติมแต่งความงดงาม และสร้างสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับสถานที่นั้นๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ในปัจจุบันโคมไฟจะมีตัวเลือกให้เลือกสรรได้สารพัด Lumencraft Ligiting จึงได้คัดสรรเฉพาะโคมไฟที่ผลิตโดยวัสดุคุณภาพและได้มาตรฐาน ทั้งยังผ่านการออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ให้คุณได้เลือกโคมไฟที่ตอบโจทย์การใช้งานและเข้ากับสไตล์การตกแต่งสถานที่ของคุณได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ Lumencraft ยังได้จัดโชว์รูมโคมไฟให้คุณได้เยี่ยมชมและเลือกซื้อโคมไฟได้ทันที ติดต่อเราวันนี้เพื่อให้เราช่วยเลือกโคมไฟที่ตรงใจคุณมากที่สุด   

ตีโจทย์ “ไฟดาวน์ไลท์” ทำไม Interior ยุคใหม่เลือกใช้ | Lumencraft

ตีโจทย์ “ไฟดาวน์ไลท์” ทำไม Interior ยุคใหม่เลือกใช้ | Lumencraft

‘แสงสว่าง’ และการเลือกใช้ ‘ไฟ’ ถือเป็นเรื่องจำเป็นต่อการตกแต่งในบ้าน เพราะไม่ใช่แค่สร้างเสริมประสบการณ์มองเห็นให้ชัดเจน แต่ยังช่วยแต่งแต้มบรรยากาศภายในบริเวณให้สวยงามมากขึ้นอีกด้วย ในบทความนี้จึงขอมาแนะนำให้ทุกท่านรู้จักกับไฟยอดฮิตแห่งยุค อย่าง “ไฟดาวน์ไลท์” ว่าคืออะไร? ควรติดไฟดาวน์ไลท์ แบบไหนดี?

“ไฟดาวน์ไลท์” คืออะไร?

ไฟดาวน์ไลท์ (downlight) คือ โคมไฟที่ใช้หลักการติดบนฝ้าหรือเพดานส่องลงมาด้านล่างให้แสงสว่างกระจายครอบคลุมบริเวณนั้น (Ambient Lighting) หรือเฉพาะจุด (Accent lighting) เสริมลูกเล่นในการแต่งแสงได้มากกว่าโคมไฟธรรมดาทั่วไป สามารถตกแต่งได้ทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นห้องแบบไหนหรือขนาดเท่าไหร่ก็ตาม ด้วยความที่ขนาดของโคมไฟดาวน์ไลท์มักมีขนาดกะทัดรัด แต่ดีไซน์ความละมุนของแสงและเงา รวมถึงกำหนดค่าความสว่างตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างลงตัว 

เลือกไฟดาวน์ไลท์แบบไหนให้โดนใจตอบโจทย์การใช้งาน

หลังจากทำความเข้าใจแล้วว่า ไฟดาวน์ไลท์ คืออะไร หลายคนก็คงจะพอนึกภาพออก แต่จะบอกว่า ไฟดาวน์ไลท์ไม่ได้มีแบบเดียว ดังนั้น เพื่อให้เลือกใช้งานได้ตรงใจตอบโจทย์การใช้งานมากขึ้นเลยขอมาแนะนำการเลือกไฟดาวน์ไลท์กัน

1) ศึกษาประเภทของไฟดาวน์ไลท์

สิ่งแรกก่อนตัดสินใจเลือกซื้อไฟดาวน์ไลท์คือ ควรศึกษาประเภทของไฟดาวน์ไลท์ว่า มีประเภทใดบ้าง และเลือกไฟดาวน์ไลท์ แบบไหนดีตอบโจทย์การใช้งานแบบไหน เช่น

– ไฟดาวน์ไลท์ฝังฝ้า

หนึ่งในไฟดาวน์ไลท์ติดฝ้าที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับตกแต่งห้อง คือ ไฟดาวน์ไลท์ฝังฝ้า โดยไฟดาวน์ไลท์ประเภทนี้จะติดตั้งแบบซ่อนตัวอยู่บนฝ้าเพดานและจะเห็นเฉพาะส่วนบริเวณหน้าโคมขนานราบไปกับเพดานดูกลมกลืนไปกับฝ้า สามารถใช้งานได้หลากหลาย เพียงแค่ต้องระวังการติดตั้งบริเวณฝ้าหรือวัสดุที่สามารถเจาะฝังได้เท่านั้น ไม่เหมาะกับการติดบนเพดานปูนเปลือยเพราะจะเจาะปูนและเดินสายไฟได้ยากมากๆ

– ไฟดาวน์ไลท์แบบติดลอย

ไฟดาวน์ไลท์แบบติดลอยคือไฟดาวน์ไลท์ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กับไฟดาวน์ไลท์ฝังฝ้า ผู้ใช้งานมองเห็นตัวโคมได้อย่างชัดเจนหลังจากติดตั้ง นิยมใช้เป็นไฟหลัก และด้วยผู้ใช้งานต้องเห็นตัวโคมจึงมีรูปทรงและขนาดที่หลากหลายเพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้แก่สถานที่

– ไฟดาวไลท์แบบห้อยเพดาน 

ไฟดาวไลท์แบบห้อยเพดาน เป็นแบบที่ผู้ใช้งานนิยมติดไฟดาวน์ไลท์ โดยดูจากความสวยงามและรูปทรงที่กลมกลืนไปกับสไตล์ของพื้นที่เป็นหลัก ตัวโคมเน้นให้โดดเด่น ติดตั้งแบบมีสายห้อยลงมาจากฝ้าเพดาน นอกจากดีไซน์โคมที่หลากหลายแล้ว รูปแบบของแสงก็หลายหลายเช่นกัน เพื่อใช้ตกแต่งพร้อมกับให้ฟังก์ชั่นส่องสว่างที่ครอบคลุมไปพร้อมๆ กัน

– ไฟดาวไลท์แบบฝังกึ่งลอย

ไฟดาวไลท์แบบฝังกึ่งลอย จะฝังอยู่ในฝ้าเพดานและมีส่วนหน้าโคมยื่นออกมาเล็กน้อย สามารถติดตั้งได้แม้มีเงื่อนไขข้อจำกัดของพื้นที่ใต้ฝ้า เหมาะสำหรับบ้านหรือโครงการที่อยากให้ฝ้าเพดานมีลูกเล่น เน้นส่องสว่างพร้อมตกแต่งไปในตัว

2) อุณหภูมิสี

ไฟดาวน์ไลท์มีตั้งแต่แสงโทนอุ่นไปจนถึงแสงสีขาวนวล แต่ปกติจะแนะนำให้ใช้สีขาวสว่างและเย็นสำหรับห้องทำงาน เช่น ห้องครัวและห้องซักรีด แต่ในพื้นที่ส่วนตัว เช่น ห้องนอนและห้องอ่านหนังสือ ไฟดาวน์ไลท์ที่ให้ความอบอุ่นเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า หากคุณกำลังมองหาอุณหภูมิแสงที่ดีรอบด้าน ไฟ 4000K เป็นตัวเลือกที่ดีในทุกด้าน ให้ลุคที่ดูสะอาดตาแต่ยังคงให้ความอบอุ่นที่ไม่แยงตา

3) ลูเมน

เมื่อเลือกดาวน์ไลท์ตัวเลือก LED จะเป็นความสมดุลระหว่างประสิทธิภาพ (วัตต์) และความสว่าง (ลูเมน) ตัวอย่างเช่น หากคุณมักจะใช้หลอดไส้ขนาด 60 วัตต์ ตอนนี้คุณอาจต้องการเลือกดาวน์ไลท์ LED ที่ใช้กำลังไฟ 8 ถึง 12 วัตต์ และมีระดับลูเมนที่ 800 สำหรับการส่องสว่างในปริมาณที่เท่ากัน

4) องศาการกระจายแสงของไฟดาวน์ไลท์

แล้วไฟดาวน์ไลท์แบบฝัง ส่วนใหญ่จะมีมุมของลำแสง 45° แต่หลอดไฟธรรมดาจะมีมุมลำแสง 360° สำหรับไฟดาวน์ไลท์ เราแนะนำให้เลือกไฟที่มีมุมของลำแสงกว้างกว่าประมาณ 60° ซึ่งช่วยให้ได้แสงที่นุ่มนวลและกระจายแสงสำหรับห้องต่างๆ เช่น ไฟดาวน์ไลท์ ห้องนอน เป็นต้น

5) ดีไซน์หลอดไฟดาวน์ไลท์

นอกจากการใช้งานแล้วดีไซน์หน้าตาของหลอดไฟดาวน์ไลท์ต้องสอดคล้องกับการออกแบบตกแต่งภายในพื้นที่บริเวณนั้นด้วยเหมือนกัน เพื่อเพิ่มความสวยงาม

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนที่กำลังมองหาไฟส่องลงด้านล่างแบบไฟดาวน์ไลท์หรือกำลังจะรีโนเวท/ตกแต่งพื้นที่ในบ้านหรือในร้านใหม่ให้บรรยากาศสวยละมุนอบอุ่นกว่าที่คิด อย่าพลาดที่จะลองมองหาไฟดาวน์ไลท์มาแต่งแต้มความงามภายในบริเวณนั้น รับรองว่าจะสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับพื้นที่นั้นๆ ได้แน่นอน และอย่าลืมแวะชมสินค้าจาก Lumencraft Lighting เราคือผู้เชี่ยวชาญและจำหน่ายอุปกรณ์หลอดไฟแบบครบวงจร ด้วยประสบการณ์ในการทำงานทั้งโปรเจ็คเล็กหรือใหญ่ หากคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญด้านการดีไซน์ไฟในพื้นที่พาณิชย์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า โชว์รูม ออฟฟิศ ร้านอาหาร ที่พัก โรงแรม รีสอร์ท ฯลฯ ติดต่อผู้เชี่ยวชาญของเราได้เลย เราพร้อมให้บริการคุณอย่างเต็มที่

Select the fields to be shown. Others will be hidden. Drag and drop to rearrange the order.
  • Image
  • Description
  • Attributes
Click outside to hide the compare bar
Compare