
เปิดโลกโคมไฟ ชวนมารู้จักโคมไฟตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคุณ l Lumencraft
ในยุคสมัยที่การออกแบบนวัตกรรมทางเทคโนโลยีเกิดขึ้นมากมาย โคมไฟจึงไม่ใช่แค่อุปกรณ์ส่องสว่างเพียงอย่างเดียวแล้ว เพราะในปัจจุบัน โคมไฟยังถือเป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งบ้านหรือสถานที่ต่างๆ อาทิ คอนโดมิเนียม สำนักงาน โรงแรม ฯลฯ ทั้งยังสามารถนำไปใช้ได้หลากหลายโอกาส ตอบสนองต่อความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของผู้ใช้ วันนี้เราจึงอยากพาคุณเดินทางไปเปิดโลกสารพัดโคมไฟ โดยการทำความรู้จักกับประเภทของโคมไฟ เรียนรู้ถึงประโยชน์ของโคมไฟแต่ละประเภท พร้อมทั้งวิธีการเลือกโคมไฟเพื่อที่คุณจะได้นำโคมไฟไปใช้ได้อย่างถูกต้องและประดับตกแต่งได้สวยงามยิ่งขึ้น ไปติดตามพร้อม ๆ กันเลย
โคมไฟ คืออะไร?

โคมไฟ คืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับส่องสว่างได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ส่วนประกอบของโคมไฟจะประกอบด้วยตัวโคมที่ใช้ปกป้องหลอดไฟหรือแหล่งกำเนิดแสง และโครงฐานที่ใช้รองรับหรือติดตั้งโคมไฟ ทุกวันนี้โคมไฟมักถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งบ้าน เพราะส่วนใหญ่ โคมไฟสมัยใหม่จะได้รับการออกแบบมาอย่างสวยงาม มีเอกลักษณ์ ผ่านการรังสรรค์แต่ละชิ้นส่วนอย่างพิถีพิถันเพื่อให้เข้ากับสถานที่มากขึ้น โคมไฟจึงถือเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ช่วยสร้างบรรยากาศ เสริมสร้างสไตล์แต่ละพื้นที่ให้โดดเด่นเป็นที่จดจำ ตลอดจดยกระดับสถานที่ให้มีความหรูหรามากขึ้น
ประเภทของโคมไฟ

โคมไฟผ่านการออกแบบมาโดยคำนึงถึงการใช้งานและความสวยงาม ด้วยการผสมผสานระหว่างการออกแบบ สี รูปทรง และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้โคมไฟแต่ละชิ้นสามารถตอบโจทย์ได้สารพัดการใช้งาน เราขอแนะนำแต่ละประเภทของโคมไฟดังต่อไปนี้
– โคมไฟเพดาน
โคมไฟเพดานจะติดตั้งอยู่บนเพดานของห้อง มีหลายรูปทรงให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นสี่เหลี่ยม วงกลม รูปทรงอิงตามธรรมชาติ เช่น มีลักษณะคล้ายดอกไม้ ดอกบัว ผีเสื้อ หรือเป็นโคมไฟที่ห้อยลงมาในหลากหลายสไตล์ ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้สถานที่นั้นๆ น่าอยู่ยิ่งขึ้น โคมไฟเพดานสามารถกระจายแสงได้ทั่วทุกมุมห้อง เหมาะสำหรับห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือห้องทำงาน

– โคมไฟทำงาน
โคมไฟทำงานมีลักษณะเป็นโคมไฟตั้งโต๊ะ ตั้งพื้น ยึดติดกับโต๊ะหรือผนัง มีหลากหลายรูปทรงให้เลือกเช่นกัน ส่วนใหญ่สามารถปรับระดับความสูงต่ำได้ บางตัวสามารถหมุนได้ 360 องศา บางตัวสามารถปรับระดับแสงสว่างและพับเก็บได้อีกด้วย โคมไฟทำงานมีทั้งแบบเสียบปลั๊กและแบบใช้แบตเตอรี่ โดยออกแบบมาให้แสงส่องเน้นไปยังพื้นที่ทำงาน เช่น โต๊ะทำงาน โต๊ะอ่านหนังสือ เหมาะสำหรับห้องทำงานหรือห้องนอน โดยค่าแสงไฟที่เหมาะสำหรับการอ่านหนังสือนั้น เราควรเลือกใช้หลอดไฟสี Cool White ที่มีค่าแสงอยู่ที่ 4000K เพื่อช่วยถนอมสายตาและอ่านหนังสือได้นานยิ่งขึ้น

– โคมไฟดาวน์ไลท์
โคมไฟดาวน์ไลท์จะติดตั้งซ่อนอยู่ใต้ฝ้าเพดาน โดยหลักแล้วมีอยู่ด้วยกันสี่รูปแบบ ได้แก่ ไฟดาวน์ไลท์แบบฝังใต้ฝ้า ไฟดาวน์ไลท์ติดลอย โคมไฟดาวน์ไลท์แบบแขวน และโคมไฟดาวน์ไลท์แบบฝังกึ่งลอย แต่ละรูปแบบมีความโดดเด่นในสไตล์ที่ต่างกันขึ้นอยู่กับว่าคุณชอบสไตล์แบบไหน โคมไฟดาวน์ไลท์จะให้แสงที่มีความอ่อนโยน นุ่มนวล มอบความรู้สึกอบอุ่นสบายตา เหมาะสำหรับใช้ในห้องครัว ห้องน้ำ หรือห้องรับแขก ยกตัวอย่าง โคมไฟดาวน์ไลท์รุ่น AVA MONICA FLIN จาก Lumencraft ผู้เชี่ยวชาญด้านโคมไฟและแสงสว่างในประเทศไทย โคมไฟดาวน์ไลท์รุ่น AVA MONICA FLIN เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในห้องที่จำเป็นต้องใช้พลังไฟสูงแต่ค่าแสงไม่เบี่ยงเบนมาก เพราะมีขนาดกระทัดรัดและค่อนข้างกลมกลืนไปกับฝ้าเพดานอย่างลงตัว ทำให้ฝ้าดูเรียบสวยไม่เป็นช่องหลุมเหมือนโคมดาวน์ไลท์ทั่วไป หากเป็นโคมประเภท COB อายุการใช้งานจะนานกว่าหลอดประเภท Retrofit หลายเท่าและยังได้ความสว่างที่มากกว่า หลอด LED Retrofit ทั่วไปอายุการใช้งานจะอยู่ที่ 2-4 ปี แต่สำหรับโคมประเภท COB เราสามารถใช้งานได้นานกว่า 10 ปีเลยทีเดียว
– โคมไฟระเบียงหน้าบ้าน
โคมไฟระเบียงหน้าบ้านคือโคมไฟที่ติดตั้งบริเวณหน้าบ้าน โดยมักติดกับผนังและเน้นให้ความสว่างในพื้นที่ด้านนอก เช่น ระเบียง สวน หรือบริเวณทางเดิน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยแก่ผู้อยู่อาศัยรวมถึงแขกที่มาเยี่ยมบ้านในเวลากลางคืน ที่สำคัญ ดีไซน์และแสงที่ส่องออกมาจากโคมไฟระเบียงหน้าบ้านจะช่วยมอบความรู้สึกแห่งการยินดีต้อนรับให้กับบ้านหลังนั้น ทั้งยังเป็นเสมือนประตูที่นำพาความเจริญรุ่งเรืองมาสู่เจ้าของบ้านอีกด้วย มากกว่านั้น เพราะเราจำเป็นต้องเปิดโคมไฟระเบียงหน้าบานตลอดทั้งคืน Lumencraft จึงขอแนะนำให้ใช้โคมประเภท Wall Light (IP54) สำหรับระเบียงที่มีชายคา หากเป็นภายนอกที่โดนน้ำฝน ควรเลือกโคมไฟที่มี IP65 ขึ้นไป และสำหรับไฟสนามหรือไฟภายนอก การเลือกค่าของแสงอยู่ที่ 2700K จะให้อารมณ์ความรู้สึกที่ดีกว่า ช่วยให้บ้านน่าอยู่และประหยัดไฟได้มากกว่าเดิม
– โคมไฟ LED
โคมไฟ LED เป็นโคมไฟที่ใช้แหล่งกำเนิดแสงจากหลอดไฟ LED ซึ่งประหยัดพลังงานและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน องค์กร บริษัท ห้างสรรพสินค้า หรือโรงงานอุตสาหกรรม มักใช้หลอดไฟ LED เพราะความมีประสิทธิภาพและศักยภาพในการประหยัดพลังงานของหลอดไฟ LED โคมไฟ LED สามารถนำไปใช้ได้กับทุกประเภทของโคมไฟ อีกทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ประโยชน์ของโคมไฟ

นอกจากการให้แสงสว่างแล้ว โคมไฟยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย อาทิ
– เพิ่มความปลอดภัย
โคมไฟช่วยให้เรามองเห็นสิ่งที่ก่อให้เกิดอันตราย มองเห็นสิ่งที่อยู่บนถนนและสิ่งกีดขวางต่างๆ ในที่มืดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ยกตัวอย่าง โคมไฟ Street Light ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงเวลาค่ำมืด
– ส่งเสริมบรรยากาศ
โคมไฟเป็นองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการเสริมสร้างบรรยากาศโดยรอบให้สวยงามและน่าอยู่ โดยเฉพาะในสถานที่สำหรับพักผ่อน เช่น โรงแรม รีสอร์ท การเลือกโคมไฟที่เหมาะสมและไม่เหมือนใคร จะช่วยดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาพักอาศัยได้ดีเลยทีเดียว

– ประหยัดพลังงาน
สำหรับโคมไฟที่ช่วยประหยัดพลังงาน ต้องยกให้โคมไฟ LED เพราะใช้พลังงานน้อย ให้ความสว่างสูง ไม่ปล่อยรังสี UV ถือเป็นโคมไฟที่สามารถลดค่าไฟและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้เป็นอย่างดี
– ช่วยในการทำงาน
ยามค่ำคืนที่เราไม่ต้องการเปิดไฟจนทั่วห้อง เราสามารถเลือกเปิดเฉพาะโคมไฟทำงานหรือโคมไฟตั้งโต๊ะได้ เช่น โคมไฟอ่านหนังสือ โคมไฟประเภทนี้มักมีการออกแบบให้มีความสว่างในระดับที่เหมาะสมสำหรับการทำงานหรือการอ่านหนังสือ จึงช่วยถนอมสายตา เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ช่วยให้ทำงานได้นานขึ้น ทั้งยังประหยัดไฟอีกด้วย
วิธีการเลือกโคมไฟให้ตอบโจทย์

ปัจจุบัน โคมไฟมีมากมายหลายรูปแบบให้เลือกซื้อ ทำให้หลายคนเกิดความลังเลสับสนว่าจะเลือกโคมไฟแบบไหนดี เราขอแนะนำเคล็ดลับในการเลือกโคมไฟให้ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ แล้วการเลือกโคมไฟจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
– พิจารณาจากความต้องการ
ก่อนอื่นต้องพิจารณาความต้องการของตนเองให้แน่ชัดก่อนว่า คุณต้องการโคมไฟที่ใช้สำหรับอะไร เช่น หากเน้นความสว่างภายในอาคารพาณิชย์ ก็อาจจะเลือกโคมไฟออฟฟิศหรือโคมไฟที่ใช้ในสำนักงาน เป็นต้น วิธี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกโคมไฟได้ง่ายยิ่งขึ้น

– พิจารณาจากสไตล์และการตกแต่ง
หลังจากได้ทำความเข้าใจเหตุผลในการเลือกโคมไฟของตนเองแล้ว มาพิจารณาสไตล์และการตกแต่งกันต่อ โดยคุณจะต้องเลือกสไตล์และการตกแต่งที่เข้ากับสถานที่ที่จะไปติดตั้งโคมไฟ เช่น หากคุณจะติดตั้งโคมไฟเพดานในบ้าน คุณต้องคำนึงถึงสไตล์การตกแต่งบ้านโดยรวมของคุณทั้งหมด และดูว่าเป็นสไตล์แบบไหน เช่น โมเดิร์น มินิมอล คลาสสิก หรือลักซูรี คุณจะได้เลือกโคมไฟในสไตล์ที่เข้ากับตัวบ้านได้มากที่สุด
– ขนาดและความสูงของโคมไฟ
ขนาดของโคมไฟมีผลต่อการกระจายแสงและบรรยากาศของพื้นที่โดยรอบอย่างเลี่ยงไม่ได้ คุณจึงต้องประเมินขนาดและความสูงของสถานที่ที่คุณจะไปติดตั้งโคมไฟให้รอบคอบเพื่อที่จะได้เลือกโคมไฟที่พอดีกับสถานที่นั้นๆ เช่น โคมไฟเพดาน ควรเลือกโคมไฟที่เหมาะสมกับความสูงของเพดาน ไม่ต่ำหรือสูงจนเกินไป และส่องแสงสว่างได้ทั่วทุกมุมห้อง หรือโคมไฟทำงาน ก็ควรอยู่ในระดับสายตาเพื่อลดอาการเมื่อยล้าของสายตา

– แสงจากโคมไฟ
แสงจากโคมไฟเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะแสงแต่ละสีจะให้ความรู้สึกแตกต่างกันชัดเจน เช่น แสงไฟสีโทนอุ่นอย่างวอร์มไวท์ จะให้ความรู้สึกอบอุ่นโรแมนติกเหมาะสำหรับใช้ในห้องนอน แสงสีขาวธรรมชาติอย่างเดย์ไลท์ก็จะให้ความรู้สึกกระตือรือร้นเหมาะสำหรับใช้ในสำนักงาน เป็นต้น การศึกษาเรื่องแสงจากโคมไฟมาก่อนก็จะช่วยให้คุณเลือกโคมไฟที่เอื้ออำนวยและเป็นผลดีต่อการดำเนินชีวิตประจำวันได้มากขึ้น
– การรับประกัน
การซื้อโคมไฟจากร้านขายโคมไฟไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ควรตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันสินค้าอย่างรอบคอบ และตรวจสอบให้มั่นใจว่าการบริการหลังการขายมีคุณภาพ เพื่อให้คุณได้รับสินค้าที่ดีที่สุดและคุ้มค่ามากที่สุด
Lumencraft Ligiting มีหลากหลายสินค้าให้เลือกพร้อมการรับประกันสินค้าที่วางใจได้ โดยการรับประกันสินค้าของ Lumencraft ในแต่ละรุ่นจะไม่เท่ากัน อาทิ (1) ประเภทหลอด Bulb E27 รับประกัน 1 ปี (2) ประเภทหลอด Gu10 รับประกัน 2 ปี (3) ประเภทโคม COB ทั่วไป, Striplight, Power supply รับประกัน 3 ปี โดยหากต้องการเคลมสินค้า ลูกค้าต้องเก็บใบเสร็จรับเงินไว้ หากใบเสร็จรับเงินหาย จะไม่สามารถเคลมสินค้าได้ในทุกกรณี ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัย ลูกค้าสามารถติดต่อสอบถามทาง Lumencraft ได้ทุกเมื่อ เพราะ Lumencraft พร้อมที่จะตอบคำถามและคลายข้อสงสัยให้ลูกค้าในทันที
ดูแลโคมไฟอย่างไรให้ใช้ได้นาน

หากเราซื้อโคมไฟมาแล้ว สิ่งหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือการบำรุงรักษาโคมไฟ ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่า จะมีวิธีดูแลรักษาโคมไฟอย่างไรให้ใช้ได้นาน เราจะมาเผยวิธีให้คุณได้ทราบดังนี้
- เลือกหลอดไฟที่มีขนาดหรือแรงดันที่ตรงกับโคมไฟ และหลีกเลี่ยงการใช้หลอดไฟที่มีความร้อนสูงเกินไป เพื่อถนอมหลอดไฟให้ใช้งานได้นานขึ้น
- ตรวจสอบสภาพโคมไฟอย่างสม่ำเสมอ และควรติดตั้งโคมไฟในตำแหน่งที่ไม่เป็นอันตรายต่อการชนหรือร่วง
- ควรใช้งานโคมไฟอย่างระมัดระวัง ไม่ควรเปิด-ปิดสวิตช์ไฟอย่างรุนแรง เพราะอาจทำให้ระบบภายในเสียหายได้
- ก่อนทำความสะอาด ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า ปิดสวิตช์โคมไฟแล้วทุกครั้ง ไม่เช่นนั้นอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต
- หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่เข้มข้นเกินไป เพียงใช้น้ำยาล้างจานผสมกับน้ำสะอาด และใช้ผ้านุ่ม ๆ ที่ไม่มีเส้นใยมาทำความสะอาดโคมไฟเพื่อป้องกันรอยขีดข่วนและคราบขุ่นมัว แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

เพราะโคมไฟคือองค์ประกอบที่ให้ทั้งแสงสว่าง เติมแต่งความงดงาม และสร้างสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับสถานที่นั้นๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ในปัจจุบันโคมไฟจะมีตัวเลือกให้เลือกสรรได้สารพัด Lumencraft Ligiting จึงได้คัดสรรเฉพาะโคมไฟที่ผลิตโดยวัสดุคุณภาพและได้มาตรฐาน ทั้งยังผ่านการออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ให้คุณได้เลือกโคมไฟที่ตอบโจทย์การใช้งานและเข้ากับสไตล์การตกแต่งสถานที่ของคุณได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ Lumencraft ยังได้จัดโชว์รูมโคมไฟให้คุณได้เยี่ยมชมและเลือกซื้อโคมไฟได้ทันที ติดต่อเราวันนี้เพื่อให้เราช่วยเลือกโคมไฟที่ตรงใจคุณมากที่สุด