เคยไหมหลอดไฟมีหลากหลายโทนสีเหลือเกิน จะเลือกใช้ทีก็งงไปหมดว่าจะเลือกโทนไหน สีไหนดี วันนี้เรามาดูเบื้องต้นกันดีกว่าค่ะว่าการเลือกโทนสีไหนที่จะตอบโจทย์และเหมาะสมการใช้งานของคุณมากที่สุด เพราะการติดตั้งตามอุณหภูมิสีแตกต่างกันไป จะทำให้บรรยากาศในห้องหรือสถานที่ต่างๆมีบรรยากาศที่แตกต่างกันไป

สีแบบวอร์มไวท์ ( Warm White) โทนสีตั้งแต่ 2700k – 3000k (K=Kelvin หน่วยอุณหภูมิของแสง) เหมาะสำหรับการตกแต่งสร้างบรรยากาศมากกว่าการให้ความสว่างเพื่อความชัดเจน แสงแบบ ww จะให้ความรู้สึก อบอุ่น นุ่มนวล โรแมนติกและดูผ่อนคลาย หากใช้ภายในบ้านจะนิยมใช้ภายในห้องนอน ห้องพระ ห้องนั่งเล่น แม้แต่โรงแรมหรือสปาส่วนใหญ่ก็จะใช้โทนสีแบบวอร์มไวท์เพื่อที่จะเน้นบรรยากาศให้ดูอบอุ่น ผ่อนคลายดูเป็นส่วนตัว เพิ่มความมีมิติให้กับสถานที่นั้นๆ

สีแบบคูล ไวท์ ( Cool White) โทนสีตั้งแต่ 3500k – 4100k (K=Kelvin หน่วยอุณหภูมิของแสง) เป็นโทนสีอยู่กึ่งกลางระหว่างวอร์มไวท์และเดย์ไลท์ ไม่ส้มหรือฟ้าไป เป็นแสงที่ช่วยให้มองเห็นชัดเจนมากยิ่งขึ้นกว่าสีวอร์มไวท์ ส่วนใหญ่แล้วมักถูกใช้ในห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ตบางมุมที่ต้องการเน้นให้สีสันของอาหารให้ดูน่ากินก็จะใช้แสงโทนนี้ได้ด้วยเช่นกัน เพราะมีสีส้มอมกำลังดี ช่วยให้สีสันของสินค้าดูสดใสกว่าความเป็นจริง จึงช่วยส่งเสริมกิจกรรมในการจับจ่ายและเลือกซื้อสินค้าทำให้การตัดสินใจของลูกค้าง่ายมากขึ้น

สีแบบเดย์ไลท์ ( Day Light) โทนสีตั้งแต่ 5000k – 6500k (K=Kelvin หน่วยอุณหภูมิของแสง) เป็นโทนสีที่สว่างที่สุด ทำให้มองเห็นชัดเจน สามารถใช้ได้กับทุกที่ที่ต้องการความสว่างสดใส ต้องการมองเห็นชัดเจน โดยโทนสีแบบเดย์ไลท์จะช่วยกระตุ้นร่างกายให้กระปรี้กระเปร่า สดชื่นอีกด้วย
นี่เป็นเพียงการเลือกสีแบบพื้นฐานเบื้องต้น สามารถนำไปปรับใช้ได้อีกหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับการใช้งานของเราว่าเราต้องการแบบไหน สามารถนำมา Mix and match! ให้สวยงามและเหมาะสมให้ตรงกับความต้องการได้
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลความรู้จาก
Cr.